Tìm kiếm
Sản phẩm
Cộng đồng
Thị trường
Tin tức
Nhà môi giới
Thêm nữa
VI
Chương trình Khuyến mại Cyber Monday
GIẢM GIÁ lên đến 70%
Cộng đồng
/
Ý tưởng
/
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดขาลง ปี 2022
Bitcoin / TetherUS
Đào tạo
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดขาลง ปี 2022
Theo Real_inwCoin
Theo dõi
Theo dõi
30 thg 12, 2022
2
6
5
5
30 thg 12, 2022
เหลืออีกแค่ สองวัน ก็หมดปี 2022 กันแล้ว ผมก็เลยแวะมาสรุป บทเรียน ที่ผมได้เรียนรู้ จากการเห็นคนอื่น และ ทำด้วยตัวเอง เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจ/อุทาหรณ์ ให้กับเหล่าเทรดเดอร์ในอนาคต ได้เรียนรู้กันไปครับ
1) ได้เงินมาเยอะแค่ไหน ตอนตลาดดีๆ ก็ไม่สำคัญเท่าการรักษาเงินก้อนนั้นไว้ตอนตลาดแย่ๆ
- ที่ยกให้ข้อนี้ขึ้นเป็นข้อแรก เพราะหลังจากผมคิดไปคิดมา ก็พบว่า ข้อนี้มันสำคัญสุดจริงๆ
- เพราะปีที่แล้ว ( 2021 ) เราจะเห็น success stories มากมายก่ายกองจากหลายๆ คน เช่น เปลี่ยนเงินสองแสนเป็นห้าสิบล้าน บางคนก็พอร์ตโตเป็นหลายร้อยล้าน วัยรุ่นหลายๆ คนก็ได้จับเงินหกหลักเจ็ดหลักกันถ้วนหน้า
- หลักๆ ที่ไปลองศึกษาแนวทางของคนเหล่านี้มา ก็คือ การ “All-in ไปเรื่อยๆ” เช่น จากเงินสองแสนไป all-in จนได้มาเป็น ห้าแสน … จากห้าแสนก็ all-in เป็น หนึ่งล้าน.. จากหนึ่งล้านก็ all-in เป็นสามล้าน.. วนๆ ไป และคนเหล่านี้ก็จะ “ไม่มีการคัทลอสด้วย เพราะเชื่อว่า ถ้าของดี เดี๋ยวมันก็แค่ย่อแล้วไปต่อ”
- ในช่วงตลาดดีๆ การทำแบบนี้มันจะให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ และพอร์ตก็จะโตเร็วมากๆ ด้วยเช่นกัน … แต่ก็นั่นแหละ ท่านี้มันมีปัญหาซ่อนอยู่ตอน “ตลาดขาลง”
- เพราะเมื่อไหร่ที่ตลาดเริ่มกลับตัว เป็นขาลง ถ้าคุณยังไปใช้ท่า all-in อยู่ ไม้สุดท้ายที่คุณไปเข้า คุณก็จะไปเข้าที่ “ยอดดอย” พอดี และพอคุณไม่มีแผนคัทลอส ก็จะทำให้การขาดทุน เริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ
- จากขาดทุน 10% ก็กลายเป็น 20% กลายเป็น 50% รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น 99%.. ได้มา 100 ล้าน ก็อาจจะเหลือแค่ 1-2 ล้าน
- หลายๆ คนก็จะชอบบอกว่า “โอ้ย ก็ยังมีกำไรอยู่เลย เพราะฉันลงไปแค่ 5 แสน ตอนนี้ก็ยังเหลือตั้ง 2 ล้าน มันก็ตั้ง 4 เด้งอยู่นา” … แหม แต่พี่จะไม่สะทกสะท้านกับกำไรทิพย์ 98 ล้านที่หายไปเลยเหรอครับ เป็นผม ผมเครียดนะครับ 555
- สุดท้าย ก็เหมือนเราต้องมาเริ่มกันใหม่หมด เดินไปข้างหน้า 100 ก้าว แล้วถอยหลังมา 98 ก้าว แบบนั้นก็เหมือนเหนื่อยฟรีครับ
- ดังนั้น การ “รักษากำไร” ที่ได้มาตอนตลาดดีๆ มันถึงสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการ cash out ออกมาพักเป็นเงินสดนอกตลาดบ้าง หรือเอาไป diversify ลงทุนในสิ่งอื่นๆ บ้างเพื่อกระจายความเสี่ยง หรือถ้าตลาดโดยรวมเป็นขาลงก็ถือเงินสดทั้งหมดเลยก็ยังได้
- แต่ก็นั่นแหละ ถ้าคนเหล่านี้มีแผนรักษากำไร เขาก็คงจะไม่ all-in ทุกเม็ดตั้งแต่แรกอยู่ดีครับ พูดง่ายๆ ก็คือ เริ่มมาก็ติดกระดุมผิดเม็ดแล้วนั่นเอง..
- ปล. สำหรับสาย Maximalist เก็บยาวบน Time Horizon 200 ปี อันนี้เขาก้าวข้ามกำไร/ขาดทุน ทุกสิ่งอย่างไปหมดแล้ว ดังนั้น เราก็จะไม่ต้องไปสนใจเขาครับ ปล่อยเขาดำเนินแผนของเขาไป 555
2) ระบบอย่าง Trend Following บน Timeframe Daily+Weekly ช่วยป้องกันไม่ให้เราขาดทุนหนักได้
- สำหรับปีนี้ ระบบ Trend Following อย่าง Action Zone ( หรือ MACD ตัดศูนย์ ) เราเจอ false sig บน TF Daily กันกระจาย แต่ถ้าดูบน TF Weekly คือ ไม่มีสัญญาณซื้อเลยตลอดทั้งปี
- แต่ถ้าเราเข้าไปดูผลการเทรดจริงๆ ก็จะเห็นว่า ใน TF Daily เราขาดทุนไปจริงๆ ราวๆ -8% จาก false sig ทั้งหมดประมาณ 6 ครั้ง บนความเสี่ยง 2% Risk per trade
- ส่วน TF Weekly ก็คือ ไม่มีการเทรดเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียวในปีนี้..
- ถ้าเทียบกับ Benchmark การ Buy & Hold BTC ตอนเริ่มปี 2022 ก็จะพบการขาดทุนถึง -65% และถ้า DCA ก็จะขาดทุนถึง -33% นั่นเอง ยังไม่นับพวกสาย all-in จากข้อ 1 ที่โดนกันไปราวๆ -80% ถึง -99% อีกนะครับ
- ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การที่เราจะสามารถ “รักษากำไร” ที่ได้มาตอนตลาดดีๆ ได้ สิ่งที่เราต้องมีก็คือ “ระบบการเทรด” ที่จะช่วยบอกเราว่า เมื่อไหร่ ที่เราควรถือเงินสด เมื่อไหร่ ควรกลับเข้ามาลงทุน และ “Money Management” ที่จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวม จากการ diversify กำไรออกไปไว้ที่อื่นที่เสี่ยงน้อยกว่าบ้างครับ
- เทียบง่ายๆ ก็คือ เหมือนเราก้าวไปข้างหน้า 100 ก้าว แล้วเราถอยหลังมาแค่ 8 ก้าวแล้วก็หยุด เวลาที่เราจะเริ่มเดินใหม่ เราก็เริ่มเดินที่ก้าวที่ 92 นะครับ มันต่างกับคนที่ต้องถอยมา 98 ก้าวแล้วต้องเริ่มเดินที่ก้าวที่ 2 เยอะมากๆ เลยนะครับ 555
3) พยายามคิดถึงความเสี่ยงให้รอบด้าน ถ้าท่าไหนมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินเยอะ หรือทั้งหมด..ก็อย่าเอาเงินเยอะเข้าไปเล่น
- ช่วงตลาดดีๆ หลายๆ คนจะชอบลืมมองข้อนี้กันไป เอาง่ายๆ ก็ตัวอย่างของเคส all-in ไปเรื่อยๆ ในข้อแรก มันก็มีความเสี่ยงมากมายที่เราจะเสียตังทั้งหมดไป ไม่ว่าจะเป็น product ที่เราไปลงมันโดน rug pull หรือการไม่มีแผนคัท ก็จะทำให้เราติดดอยและขาดทุนหนัก เป็นต้น
- ยังไม่นับเคสที่นอกเหนือความคาดหมาย เช่น FTX หรือ Zipmex หรือ Exchange อื่นๆ ล่มสลายอีก
- แถมเคสคริปโตทั่วไปอีก ที่หลายๆ คนกระโจนเข้ามากันแบบไม่มีความรู้ สุดท้ายพอเห็นว่าได้กำไรง่ายๆ ก็หอบเงินก้อนใหญ่มาลงกัน บางคนหนักกว่านั้นก็ไปกู้มาลงทุน… พอตลาดเป็นขาลงก็เจ๊งกันถ้วนหน้า
- เอาจริงๆ ข้อนี้มันก็เหมือนกับการทำธุรกิจแหละ เช่น บางคนก็เอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนทำอะไรบางอย่าง แล้วพอเจ๊ง ชีวิตก็เดือดร้อนไปเลย ต้องกู้หนี้ยืมสิน ติดวังวนหนี้กันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
- สุดท้าย ก่อนเราจะลงทุนทำอะไรก็ตาม ให้คิดถึงความเสี่ยงก่อนเสมอ เอาง่ายๆ ให้คิดใน worst-case scenario ไปเลยว่า ถ้าเงินก้อนนี้หายหมด ชีวิตเราจะไม่เดือดร้อนนะ ชีวิตเรายังไปต่อได้นะ ถ้าดูแล้วสิ่งที่เราจะลง มันต้องใช้เงินเยอะ มากกว่าที่เราจะยอมเสียได้ ก็อย่าไปทำมันเลยครับ ลองเริ่มจากเล็กๆ ดูก่อน พอเรามีประสบการณ์ มีสกิล ก็ค่อยๆ ขยายไปก็ได้ครับ
4) การลงทุนอะไรที่ too good to be true จงอยู่ให้ห่าง
- ปีที่ผ่านมา เราเห็นการล่มสลายของสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินความจริงกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น..
* สารพัด DeFi ที่เคยให้ผลตอบแทนสูงถึงระดับ 100%++ APY … สุดท้ายก็เจ๊งกันหมด
* Anchor Protocol ที่ให้ผลตอบแทน 20% ต่อปี … สุดท้ายเจ๊งสนิท
* ZipLock ที่ให้ผลตอบแทนดี .. สุดท้ายก็เจ๊ง
* การขุดเหรียญสารพัด สามเดือนคืนทุน.. สุดท้ายก็ขุดไม่คุ้ม
* สารพัดแชร์ลูกโซ่ …ที่สุดท้ายก็ปิดตัวหนีกันไปหมด
- ทุกอย่างที่ว่ามาข้างบน จะเอาเลขผลตอบแทนที่ดีๆ เวอร์ๆ มาล่อกันทั้งนั้น แต่ถ้าเราแค่ “เอ๊ะ??” สักหน่อย เราก็จะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า.. มันเป็นไปได้ไงวะ? เราก็จะไม่ยุ่งกับพวกนี้เองครับ
5) จงเชื่อกราฟ อย่าไปเชื่อกูรู
- ในทุกขาขึ้น และขาลง จะมีกูรูมาทำนายเสมอ และแต่ละคน ก็จะเต็มไปด้วย Bias ของตัวเอง ทำนายถูก ก็ออกมาเคลม ทำนายผิด ก็… ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ทำนายใหม่ไปเรื่อยๆ
- สิ่งที่เราควรทำ ก็คือ อย่าไปฟังนักทำนายเหล่านี้มาก เพราะ ไม่มีใครรู้อนาคตได้จริงสักคนหรอก มั่วกันทั้งนั้นแหละ
- สิ่งที่จะบอกเราได้แน่ๆ ก็คือกราฟครับ พยายามดูให้เป็น ดูให้ออก ว่า กราฟแบบไหนที่เป็นทรงขาขึ้น กราฟแบบไหนที่เป็นทรงขาลง แล้วเราก็ take action ตามแผนไป
- ขาขึ้น ก็ทยอยเข้าตลาด ขาลง ก็ทยอยถือเงินสด แค่นี้เองครับ … มันเหมือนง่ายนะ แต่ทำโคตรยากเลยล่ะ
6) เมื่อสื่อพูดถึงสิ่งใดมากๆ… ให้ระวังจุดจบของสิ่งนั้นๆ
- ไม่ว่าจะเป็นจุดจบของขาขึ้น หรือจุดจบของขาลง .. มีวิธีดูง่ายๆ ดังนี้
- ถ้าสื่อพูดถึงแต่ข่าวดี เอากูรูสายมองขึ้นมาออกเยอะๆ ทำนายราคากันไปเท่านั้นเท่านี้ = ตลาดมีโอกาสจบรอบสูง ให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง ให้ดึงกำไรออกมากอดไว้บ้าง และเตรียมพร้อมเมื่อกราฟบอกให้เราหนี
- ถ้าสื่อพูดถึงแต่ข่าวร้าย เอากูรูสายมองลงมาทำนายวิกฤตกันไปเรื่อยๆ ซึนามิมาแน่ ปีหน้าเผาจริง = ตลาดมีโอกาสกลับตัวสูง ให้ทำการบ้าน หาหุ้น หาสินทรัพย์รอไว้ และเตรียมพร้อมจะซื้อเมื่อกราฟบอกให้เราเข้า
- แค่นี้เองครับ
7) อยู่ในเกมของตัวเอง อย่าไปเทียบอะไรกับคนอื่นเขามาก ทุกคนมีช่วงขึ้นและลงที่ต่างกัน
- ข้อนี้สำคัญมากๆ เช่นกัน เพราะบางทีเกมของเรา มันยังไม่มา แต่ของคนอื่นเขามาไปแล้ว พอเขาได้ตังเขาก็จะมาอวดกำไร พอเราเห็นกำไรเราก็จะเริ่มไขว้เขว และอาจจะกระโดดไปเข้าเล่นในสิ่งนั้นๆ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้ทำการบ้านอะไรมาเลย สุดท้าย ก็อาจจะโดนเล่นได้ครับ
- ดังนั้น ถ้าเราทำการบ้านในสิ่งใดๆ อยู่แล้ว และเรารอให้เกิด “สัญญาณ” อยู่ ก็ต้องอย่าวอกแวก ร้อนรน คันมือ ก็แค่ นั่งเฉยๆ รอทำตามแผนของเราไปครับ
ข้างล่างเป็น list ที่ผมคิดๆ เขียนๆ ไว้ตอนแรก แต่ไม่ได้หยิบมาอธิบายต่อ ก็แปะมาให้ลองเก็บไปคิดกันดูเองครับ
ถ้าคุณได้เงินมาเร็วๆ ง่ายๆ จากการลงทุนแบบไม่สนความเสี่ยง คุณก็จะคืนกำไรที่ได้มากลับไปให้ตลาดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตัวอย่างก็เช่นพวกชาว DeFi, GameFi 2021
สิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่รอดในตลาด ก็คือการรักษากำไรที่ได้มาเอาไว้ช่วงตลาดดีๆ ไม่ให้คืนไปตอนตลาดแย่ๆ
ตอนตลาดดีๆ กลยุทธกะโหลกกะลาแค่ไหน ถ้าไม่สวนเทรน ยังไงก็ได้ตัง แต่ตอนตลาดแย่ๆ ถ้าคุณไม่มีหลักการควบคุมความเสี่ยงที่ดี ยังไงก็หมดตัว
กลยุทธที่ทำแล้วได้ตังง่ายๆ ตอนตลาดดีๆ เช่น เห็นลงหนักๆ ก็ไปช้อนแบบจัดหนักจัดเต็ม พอเด้งก็ขาย … จะทำให้คุณหมดตัวตอนตลาดกลับมาเป็นขาลง
ตลาดไม่เคยขาดกูรู ตอนตลาดวิ่งแรงๆ ก็จะมีกูรูบอกเป้าว่าจะขึ้นไปเท่านั้นเท่านี้ พอตลาดลงหนักๆ ก็จะมีกูรูบอกเป้าว่าจะลงไปเท่านั้นเท่านี้ .. แต่ คนที่จะบอกว่าอนาคตจะไปทางไหน คือ Mr.Market เท่านั้น ไม่ใช่กูรู ดังนั้น จงเชื่อตลาด
สำหรับคนที่ทำตามระบบ Consecutive Losses เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น จงวางแผนความเสี่ยง Risk per trade ให้ดี ที่จะไม่ทำให้พอร์ตเราพัง หรือเสียหายหนัก ตอนเจอ consecutive losses หลายๆ ทีติดกัน
ตลาดจะ Top ตอนทุกคนมองขึ้น ข่าวดีออกมารัวๆ กูรูเต็มตลาด เสมอ และ ตลาดจะ Bottom ตอนทุกคนมองลง ข่าวร้ายออกมารัวๆ กูรูหายหมด เสมอ
เมื่อคุณอยากอวดกำไรลงเฟส ลงเพจ ให้ทุกคนรู้ เมื่อนั้น มักจะเป็นจังหวะตลาด Top เสมอ
อย่ากู้เงิน เอาเงินร้อน มาเทรด เด็ดขาด
ถ้ามีกำไร ต้องมีแผนเก็บกำไรเสมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองเห็นกำไรละลายหายไปต่อหน้าต่อตาเด็ดขาด
กำไรที่ได้มาจากข้อที่แล้ว ควรเก็บออกมากอดนอกสนามเลย อย่าเอาไป reinvest พร่ำเพรื่อ
อะไรที่ได้ตังง่ายๆ โดยไม่ต้องทำอะไร แค่ฝากเงินไว้เฉยๆ.. มันไม่มีจริง
ความเชื่อ มันน่ากลัว เพราะมันจะมาทำให้เราเชื่อจนไม่ยอมตัดสินใจ take action ที่ดี
การเข้ามาเทรด คือการทำให้ wealth ของเรางอกเงย เพื่อที่เราจะได้มีชีวิตที่มีคุณภาพดีขึ้น ไม่ใช่การเข้ามาเพื่อพิสูจน์ความเชื่ออันสุดโต่งของเราเอง
อะไรที่มีขึ้น ก็ย่อมจะมีลง อะไรที่ลงก็ย่อมจะมีขึ้น.. จงเตรียมพร้อมและวางแผนรับมือความเปลี่ยนแปลงเสมอ
มือใหม่เข้าตลาดมา ยังไงต้องเจ๊งอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่ที่จะไม่ปกติคือ เข้ามาเจ๊งแล้วไม่ได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดนั้นๆ เลย
เพราะ ถ้าคุณเรียนรู้จากความผิดพลาด โอกาสที่คุณจะได้ตังในขาขึ้นรอบหน้าก็จะมีสูงขึ้น
การเทรดให้น้อยลงในตลาดขาลง นอกจากจะช่วยไม่ให้เราเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังช่วยให้เรารักษาสภาพจิตใจไม่ให้ถดถอยด้วย เพราะในการเทรด สภาพจิตใจของเรา สำคัญมากๆ ถ้าใจพัง มันจะทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจ หรือ ไปตัดสินใจทำอะไรที่จะทำให้พอร์ตพังมากยิ่งขึ้น ( เช่น เทรดแก้แค้น )
กลยุทธใดๆ ถ้ามันทำซ้ำอีกไม่ได้ ก็ไม่ใช่กลยุทธที่ดี เราก็แค่โชคดีต่างหาก
การทำตามกลยุทธอย่างมีวินัย มันช่วยให้เราไม่มีวันติดดอยหนัก และไม่มีวันตกรถ 100%
การถือเงินสดในช่วงตลาดขาลง จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่นๆ เพราะเราจะมีเงินเอาไว้ซื้อของราคาถูก หลังจากมันเริ่มกลับตัวแล้ว
ตลาดขาลงที่ยาวนาน จะทำให้เราเริ่มหมดไฟ ท้อ และเลิกสนใจตลาดไป แต่อยากจะบอกว่า มันคือโอกาสที่ดีต่างหาก ดังนั้น จงอย่างทิ้งตลาด และเตรียมความพร้อมที่จะกลับเข้ามาเสมอ เพราะถ้าคุณไม่อยู่กับตลาดตลอด คุณจะไปรู้ตัวอีกทีตอนตลาดกลับเป็นขาขึ้นเรียบร้อยแล้ว..และแน่นอน ก็อาจจะมีโอกาสติดดอยใหม่เหมือนเดิมนั่นเอง 555
ช่วงตลาดดีๆ อะไรก็ดูดี ช่วงตลาดแย่ๆ อะไรก็พร้อมพังเสมอ ดังนั้น ถ้าได้ตังมาเยอะช่วงตลาดดีๆ ตอนตลาดเริ่มหัวทิ่ม ก็ต้อง cash out ออกมาก่อน
จงเป็นคนขี้ระแวง ถ้าเริ่มได้กลิ่นตุๆ ให้วิ่งหนีทันที อย่ามัวรอดูก่อน เพราะอาจจะช้าเกินไป
-- ส่งท้าย --
สุดท้ายนี้ ปี 2022 ก็น่าจะให้บทเรียนกับทุกคนที่เข้ามาตลาดกัน ไม่มากก็น้อย ตัวผมเองก็ได้ ตอกย้ำ บทเรียน ที่เคยตกผลึกมาก่อนหน้านี้ ว่า ... เออ ไอ้ที่เราคิดมา มันถูกแล้วล่ะ จงทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป
ส่วนใครที่เจ๊งหนักในปีนี้ แต่อยากจะเอาดีทางด้านการเทรดนี้จริงๆ ก็ขอให้อย่ายอมแพ้นะครับ เพราะจากที่ผมอ่านและฟังเทรดเดอร์ไทยและฝรั่งมาหลายท่าน บอกได้เลยว่า ทุกคน ต้องผ่านจุดนี้กันมาทั้งนั้น ... จุดที่เจ๊ง หมดตัว และไม่ยอมแพ้ ฮึด ลุกขึ้นมาสู้ต่อ ผมเองก็เคยผ่านมาเช่นกัน.. และ ในปีนี้ ผมก็รอดมาได้ โดยแทบไม่เสียหายหนักเลย
จงเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และก้าวต่อไปครับ เพราะ ข้อผิดพลาด คือ ครูที่ดีที่สุด ของเราครับ..
BTCUSD
lesson2022
Trend Analysis
Real_inwCoin
Theo dõi
- ถ้าอยากดูผล Backtest ของกลยุทธนี้ ให้เปิดผ่าน web browser บน PC นะครับ
- ถ้าอยากติดตามเพจ ก็เข้าไปไลค์ได้ที่ facebook.com/inwcoin
- ทุกบทวิเคราะห์ ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน เป็นเพียงการศึกษา Technical Analysis และบันทึกไว้เป็นหลักฐานของผมเองเท่านั้น
Ngoài ra, trên:
Thông báo miễn trừ trách nhiệm
Thông tin và ấn phẩm không có nghĩa là và không cấu thành, tài chính, đầu tư, kinh doanh, hoặc các loại lời khuyên hoặc khuyến nghị khác được cung cấp hoặc xác nhận bởi TradingView. Đọc thêm trong
Điều khoản sử dụng
.